ทุกวันนี้ นามบัตรดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยจะจำเป็นเท่าไหร่ เนื่องจากเราใช้ social media มากมายเพื่อสื่อสารกันผ่านตัวอักษร ผ่านรูปภาพที่แทบจะ Real Time แต่นามบัตรก็ยังคงมีความสำคัญ โดยเฉพาะเวลาเราไปงาน event ไปพบเจอผู้คนใหม่ๆ
ฉะนั้นหน้าที่ของเจ้านามบัตรนี้ จะเป็นสะพานเชื่อมเราจากโลก offline สู่โลก online
เหตุผลที่คุณควรจะต้องมีนามบัตรส่วนตัว
- ทำงานหลายอย่าง สวมหมวกหลายใบ เลือกนามบัตรที่จะแจกไม่ถูก
- ทำงานอาชีพอิสระ (Freelance)
- ต้องพบปะผู้คนใหม่ๆ ตามงาน Event, Workshop เดือนละหลายๆ ครั้ง
- ต้องการ Connections ใหม่ๆ บนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Follower บน Twitter, Connection บน Linkedin ETC. ที่ในนามบัตรของบริษัทส่วนใหญ่ไม่สามารถให้คุณใส่ข้อมูลส่วนตัวเหล่านี้ลงไปได้สะดวกนัก
- ต้องการสร้าง Personal Branding ของตัวคุณเอง ให้คนจดจำ ประทับ
องค์ประกอบ และข้อมูล บนนามบัตรส่วนตัวที่ช่วยเสริมสร้าง Personal Branding ให้คุณ
- รูป Profile
แนะนำให้ใช้รูปที่ใช้เป็นรูป profile อยู่บนเว็บต่างๆ จะช่วยให้คนที่ได้นามบัตรเห็นความเชื่อมโยงระหว่างนามบัตรกับตัวเราบนโลกออนไลน์ รูปนี้มักจะเป็นรูปที่คิดว่าเราดูดี เวลาสมัครเว็บใหม่ ก็ใช้รูปนี้ประจำ ที่สำคัญ ควรจะเป็นรูปที่แสดงเป็นตัวเรามากที่สุด ไม่ต้องซีเรียสมาก แต่ก็ไม่ดูเล่นๆ จนเกินไป - คำอธิบายว่าคุณคือใคร ถนัดด้านไหน ชอบทำอะไร ใน 1-2 บรรทัด
ไม่จำเป็นต้องเป็นตำแหน่งที่คุณทำในบริษัท แต่เขียนอะไรสั้นๆที่อธิบายความเป็นตัวคุณ สิ่งที่คุณถนัด สิ่งที่คุณชอบ แล้วมันพอจะเกี่ยวกับเรื่องงานที่คุณทำ ก็ใส่ลงไปได้ เช่น Designer, Blogger & Serial Entrepreneur ควรจะ consistent กับสิ่งที่คุณอธิบายตัวเองบน Twitter, Facebook, Linked เช่นกัน - ช่องทางการติดต่อ ได้แก่ เบอร์โทร, อีเมล, เว็บไซต์
ที่อยู่ นั้นแทบไม่จำเป็น ในเมื่อมันเป็นนามบัตรส่วนตัว คุณคงจะไม่อยากจะใส่ที่อยู่ที่บ้านคุณลงไปให้คนอื่นรู้ และจริงๆแล้วก็ไม่มีความจำเป็นที่จะใส่ด้วย เอาไว้ให้คนตามหาตัวคุณจาก ‘ที่อยู่ออนไลน์' แทน - Profile บน Social Media ต่างๆ
ชื่อบน Social Media แต่ละที่ของคุณ ควรจะเป็นชื่อเดียวกัน เพื่อให้คนค้นหาและจดจำคุณได้ง่าย หมดยุคแล้วกับการตั้งชื่ออะไรประหลาดๆ หรือนามแฝงเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา - การออกแบบ
ก็รู้ๆกันอยู่ว่าการมีนามบัตรที่สวยงาม อ่านง่าย ไม่เยอะ ไม่น้อยจนเกินไป และ ‘ให้ข้อมูล' ช่วยสร้าง First Impressional ให้แก่ผู้ที่ได้รับได้เป็นอย่างมาก หากคุณไม่ได้เป็นกราฟฟิกดีไซน์เนอร์ที่เน้นเทคนิคการพิมพ์หรูหราตระการตาแล้วล่ะก็ แค่การเลือกฟอนท์ดีๆ จัดวางให้ลงตัว ไม่เละเทะ เลือกสีที่จะเน้น 1-2 สี วางเลเอาต์แบบไม่ต้องเยอะ เบสิคๆ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
แจกฟรี! สำหรับใครที่อยากได้ไฟล์นามบัตรที่ออกแบบตามแนวคิดตามที่ว่ามาจากด้านบน สามารถดาวน์โหลดไฟล์ Personal Business Card PSD ไปใช้ได้เลยฟรีๆ
ข้อแนะนำในการปรับเปลี่ยนนามบัตรให้แสดงถึงเป็นตัวคุณ
- เลือกสีหลัก แม้ว่าช่วงนี้สีสดๆกำลังมา แต่ก็อย่าไปตามกระแสมากนัก เลือกสีที่คุณชอบใช้เวลาบ่งบอกถึงความเป็นตัวเอง หากนึกไม่ออก ลองดูสิ่งของรอบๆตัวที่คุณเป็นเจ้าของ แล้วดูว่ามีของสีไหนเยอะที่สุดในกระเป๋าคุณ
- ฟอนท์ heading สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นได้ เพราะฟอนท์ตัวอย่างที่ใช้ เป็นฟอนท์ที่ต้องซื้อ แนะนำเว็บ dafont.com มีฟอนท์สวยๆให้ดาวน์โหลดเยอะ ถ้าอยากได้ภาษาไทยก็ไปที่ f0nt.com
- social media icon อันไหนคุณไม่ใช้ ก็เอาออกได้ตามสะดวก ประเด็นสำคัญอยู่ที่ชื่อ username ด้วย ควรจะใช้ชื่อเดียว เพื่อให้คนจดจำและเสิร์ชเจอง่าย
ปล. ถ้าเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ หรือไฟล์ที่โหลดไปเอาไปประยุกต์ใช้เป็นนามบัตรของคุณเองได้จริง ก็อย่าลืมช่วยแชร์หน้านี้ให้ด้วยนะคะ :D