Personal Brand VS Business Brand

หากคุณกำลังอยากทำ Personal Brand เพื่อส่งเสริมธุรกิจ แต่ยังไม่แน่ใจว่า

“ฉันควรทำ Personal Brand หรือ Business Brand ดีนะ” หรือ

“ฉันจำเป็นต้องทำ Personal Brand หรือเปล่า หรือไปโฟกัสที่ Business Brand ก่อนดี?”

บทความนี้จะมาเล่ามุมมองของโบเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ฟังกันค่ะ

แต่ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจก่อนว่า Business Brand คืออะไร และมีความแตกต่างกับ Personal Brand อย่างไร

Business Brand กับ Personal Brand ต่างกันอย่างไร?

Business Brand คือภาพลักษณ์ของธุรกิจ หรือที่เราจะเรียกสั้นๆ ว่าการสร้างแบรนด์

Personal Brand คือภาพลักษณ์ของเรา ที่คนอื่นรับรู้ ซึ่งจะถูกสร้างขึ้นมาโดยมีพื้นฐาน Brand เดิมของคนคนนั้น ในขณะที่ Business Brand นั้นต่างออกไป เพราะจะถูกสร้างขึ้นมาจากศูนย์ จึงมีความ Flexible ในการสร้างขึ้นมากกว่า Personal Brand

อ่านเกี่ยวกับ Personal Branding ได้ที่ Personal Branding Guide

คนที่เป็นตัวแทนของ Business Brand ก็คือทุกคนที่อยู่ในธุรกิจนั้น ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของ ผู้บริหาร พนักงาน แน่นอนว่าแต่ละคนก็จะมีภาพลักษณ์ที่เกี่ยวโยงกับแบรนด์มากน้อยต่างกันไป ซึ่งโดยมาก 1 ในคนที่จะสะท้อนภาพลักษณ์ของ Business Brand ออกมามากที่สุดก็คือ เจ้าของ หรือผู้นำ ในธุรกิจนั้นนั่นเอง

ตัวอย่างการทำ Personal Brand ของเจ้าของธุรกิจ

Richard Branson ที่มี Personal Brand ของเขาเอง และยังมีหน้าที่เป็น Brand Ambassador ของธุรกิจต่างๆ ที่เขาทำอย่าง Virgin

ในไทยเอง เราก็จะเห็นการทำ Personal Branding ของเจ้าของธุรกิจ ที่ทำออกมาได้ดีหลายคน

คุณรวิศ หาญอุสาหะ ผู้ก่อตั้ง Mission to the Moon และ CEO ของบริษัท ศรีจันทร์ จำกัด แบรนด์เครื่องสำอางค์ของไทย ที่มี Personal Brand ที่แข็งแรงจากการทำ Media จนเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และสามารถที่จะใช้ Personal Brand นี้ไปส่งเสริมแบรนด์ธุรกิจได้เป็นอย่างดี

คุณฌอน เจ้าของและดีไซน์เนอร์ แบรนด์ POEM ที่มี Personal Branding ที่ชัดเจน จนกลายเป็น 1 ใน icon ของคนที่ให้ความสำคัญกับรายละเอียด พิถีพิถันในการใช้ชีวิตในขณะที่ก็ยังให้ความสำคัญกับงานและธุรกิจไปพร้อมๆ กัน

ทำ Business Brand หรือ Personal Brand ดี?

หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ ที่กำลังมีคำถามว่า “ควรจะทำ Personal Branding เพื่อไปส่งเสริมธุรกิจ หรือว่าควรไป Focus ที่ Business แบรนด์ไปเลยก่อนดี?” อยากให้ลองตอบ 3 คำถามล่างนี้ดูค่ะ

1. ธุรกิจที่คุณทำ ขายความสามารถ และความน่าเชื่อถือ ของคุณหรือทีมงานของคุณโดยตรงหรือไม่?

หากธุรกิจที่คุณทำ เป็นการขายความรู้ ความเชี่ยวชาญ ความน่าเชื่อถือ ความเฉพาะเจาะจง อย่างเช่น

  • Digital Agency เช่น Digital Marketing Agency, Content Marketing Agency
  • Professional Service เช่น นักกฏหมาย นักบัญชี นักออกแบบ นักการตลาด
  • Training, Coach, Consult เช่น Business Consultant, Fitness Trainer, Corporate Trainer, Online Course Trainer, นักพูด
  • อาชีพที่อาศัยความสามารถเฉพาะตัวมากๆ เช่น Chef, ช่างภาพ, ศิลปิน, นักเขียน เป็นต้น

ธุรกิจ อาชีพเหล่านี้ ถือว่าเป็นอาชีพที่ตัวตนของผู้ให้บริการ หรือเจ้าของ มีความสำคัญมาก เนื่องจากผู้ใช้บริการจะตัดสินใจจากความน่าเชื่อถือ และความเป็นที่รู้จัก ความรู้ความสามารถจากบุคคล

ฉะนั้นหากคุณทำธุรกิจดังที่กล่าวไปข้างต้น การปั้น Personal Brand จะช่วยส่งเสริมธุรกิจคุณได้อย่างมาก เพราะจะทำให้มีผู้รู้จักคุณมากขึ้น มีผู้เห็นผลงาน แนวคิด สร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งผลลัพธ์ก็คือการได้มาซึ่งธุรกิจนั่นเอง

2. ตัวคุณเองเป็นคนคิดสูตร วิธี หรือเคยลงมือทำงานที่ขายมาก่อนหรือเปล่า?

ว่าง่ายๆ ก็คือ “คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญโดยตรงในธุรกิจที่คุณทำหรือเปล่า?”

ทำไมถึงสำคัญ? เพราะหากคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญ ผู้อยู่เบื้องหลังสูตรสำเร็จที่คิดค้นขึ้น หรือ Framework ต่างๆ ที่ช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จ คุณจะมีเรื่องราวมากมายที่รอให้คุณเล่าออกมาให้ว่าที่ลูกค้าของคุณฟังได้อย่างไม่รู้จบ

ยกตัวอย่างเช่น โบเองเคยเป็นเจ้าของธุรกิจ Agency งานในส่วนการออกแบบ ทำเว็บไซต์ ทำคอนเทนต์ คือสิ่งที่โบลงมือทำเองมาก่อน ทำให้โบเจอกับอุปสรรค รู้ข้อดีข้อเสีย เข้าใจทั้งรายละเอียดและภาพรวม ทำให้เวลาที่จะเขียนคอนเทนต์ โบมีไอเดียมากมายที่จะเล่าให้ว่าที่ลูกค้าฟังได้ในมุมที่ไม่ได้ซ้ำจากคนอื่นๆ

3. คุณสนุกกับการเล่าเรื่อง แชร์ เรื่องราวหรือไม่?

คำถามสุดท้าย สำคัญมากๆ คุณเป็นคนที่ชอบเล่า ชอบแชร์ ความคิดความอ่าน ซึ่งอาจหมายรวมถึงพร้อมที่จะเอาตัวตนของคุณมาให้คนในวงกว้างรู้จักหรือไม่?

เพราะ 1 ในวิธีการทำ Personal Branding ก็คือการแชร์คอนเทนต์ ความรู้ ความเชื่อ ส่วนบุคคล ซึ่งจะยากมาก หากว่าคุณไม่ Comfortable ที่จะพูดเรื่อง Personal หรือความนึกอ่านที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ออกมา

การจะ Outsource เรื่องการทำ Content Personal Branding นั้นทำได้แต่ก็ต่อเมื่อคุณรู้ชัดถึง Personal Branding ตัวเอง ซึ่งโบเชียร์ให้ทุกคนที่เริ่มทำ Personal Branding ควรที่จะผ่านกระบวนการด้วยตัวเองก่อน ถึงจะพร้อมไปให้คนอื่นมาช่วยทำได้ อย่างโบเองในขณะนี้ยังทำคอนเทนต์ทั้งหมดเอง 100%

สรุปแล้วควรทำ Personal Brand หรือ Business Brand ดี?

ในความเห็นของโบ เจ้าของธุรกิจทุกธุรกิจควรที่จะมีการทำ Personal Branding เพราะเจ้าของธุรกิจอย่างเรานี่ล่ะ คือ influencer, brand ambassador คนแรกของแบรนด์ธุรกิจเรา

การทำ Personal Branding ของเจ้าของธุรกิจ อย่างน้อยที่สุด เพื่อนของเราต้องรู้นะ ว่าเราทำอาชีพอะไร ทำธุรกิจอะไร ไม่ใช่มีเพื่อน มี connection เยอะมาก แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าเราทำอะไร แบบนี้ก็จะเสียประโยชน์ไปอย่างน่าเสียดาย

แต่ไม่ได้แปลว่าทุกธุรกิจควรจะ Focus ที่ Personal Branding ของเจ้าของธุรกิจที่สุด หรือมองว่าจะใช้เป็น Channel หลักในการหาลูกค้า เพราะในความเป็นจริง ธุรกิจที่เป็นลักษณะของ FMCG หรือสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปแล้ว คนไม่ได้จำเป็นจะต้องรู้ว่าเจ้าของคือใคร มีความสามารถอะไร ถึงจะตัดสินใจซื้อสินค้าขนาดนั้น แต่โดยมากจะตัดสินโดยใช้ Business Brand มากกว่า ซึ่งหากคุณทำธุรกิจเหล่านี้ โดยมากโบก็จะแนะนำให้โฟกัสที่การทำ Business Brand ก่อน ส่วนตัวเจ้าของให้เริ่มที่ Personal Branding แค่ระดับ Basic ก่อนก็ยังไหว

แต่หากคุณทำธุรกิจหรืออาชีพ ในข้อ 1. แล้วล่ะก็ การทำ Personal Branding ถือเป็นกลยุทธ์และช่องทางที่โบแนะนำ ลองคิดภาพว่ายิ่งคุณมีคนรู้จักเยอะ มีคนติดตาม คอยฟังสิ่งที่่คุณพูดคุณแชร์ โดยเฉพาะที่มันเกี่ยวข้องกับธุรกิจคุณ คุณจะได้เปรียบคู่แข่งขนาดไหน? แม้ผู้ติดตามอาจจะยังไม่ได้พร้อมเป็นลูกค้าคุณในวันนี้ แต่เมื่อใดก็ตามที่เขาต้องใช้บริการ ต้องการความช่วยเหลือในเรื่องที่คุณทำ ทำไมเขาจะไม่นึกถึงคุณล่ะ?

เพราะ Personal Branding คือ Unfair Advantage ที่แท้จริง

About The Author

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *