1 ปี ในเส้นทาง Online Solo Entrepreneur เป็นยังไงบ้าง?

ผ่านไป 1 ปี หลังจากที่ออกมาเป็น Online Solo Entrepreneur เต็มตัว ถือโอกาสนี้มา Review & Reflect ตัวเองเอาไว้ซักหน่อย

ภาพรวม

🚀 ทำคอร์สใหม่สำเร็จ 1 คอร์ส → Split เป็นธุรกิจจริงจัง
🙌 Twitter followers: จาก ~1.5k → 5k
📚 ลงทุนเรียนเกี่ยวกับการทำธุรกิจ: ~300k 🤓
💰 รายได้: +17.5% เทียบกับงานเดิม*
😃 นัดเพื่อนพี่น้องคุยแบบกรุ๊ปเล็กๆ ไป 10+ คน
✈️ เที่ยวต่างประเทศ 2 ทริป
🤗 เจอใครก็ทักว่าเราดูมีความสุขขึ้น 100%

ตอนนี้ทำอะไรอยู่?

เป็นคำถามที่ได้ยินบ่อยสุด ได้ยินทุกวัน 555 โบทำอยู่ 2 อย่างหลักๆ คือ

1. Personal Branding Program ช่วยคนให้สร้าง Professional Personal Branding

หลังจากโฟกัสทำ เรื่อง Personal Brand มา 8 เดือน ถือว่าธุรกิจนี้น่าจะไปได้ดี โบเลยจะแยกธุรกิจนี้ออกมาอีกชื่อ เพื่อให้สร้างสินค้า และบริการต่างๆ ได้กว้างขึ้น แล้วโบจะมาเล่าให้ฟังอีกทีเมื่อเปิดตัวค่ะ

2. DailySleek อีคอมแบรนด์ ขายทั้งที่ไทย และ Amazon US

เกิดจากความชอบเรื่อง gadget, product design, การจัดบ้าน, และโตมาจากที่บ้านขายของ เลยเริ่มแบรนด์นี้ขึ้นมา ได้ทำทุกอย่างเอง ตั้งแต่ product design, logistic, marketing, etc. สนุกมาก ได้เรียนรู้เยอะมากจากการทำสิ่งนี้

(แถม) DailyPotions ร้านขาย Personalized Print บน Etsy

เป็นธุรกิจเล็กๆ ที่ทดลองทำดูตอนที่ explore เรื่องธุรกิจออนไลน์ แต่พอทำมาได้ปีกว่าๆ ก็พบว่ารายได้ใช้ได้อยู่นะ คือประมาณ 10% ของรายได้ทั้งหมด (กำไร 25%) แถมข้อดีคือไม่ต้องตุนของ! และได้รับ feedback ที่ดีจากลูกค้ามาต่อเติมชีวิต

สัดส่วนรายได้ทั้งหมด

เดิมมีรายได้อยู่ 1 ทาง คือ เงินเดือนจากธุรกิจที่ทำ และอาจจะมีเพิ่มเติมคืองานสอน (แต่นับเป็นสัดส่วนที่น้อย เพราะโฟกัสที่งานหลักจนหมดแรงไปแล้วจ้า)

แต่ปัจจุบันมาเป็น Solo Entrepreneur มีรายได้ 7 ทาง คือ

  1. Personal Branding Program
  2. DailySleek (E-com เฉพาะในไทย)
  3. DailyPotions (Print on Demand)
  4. Business Consultation
  5. Client Work
  6. Speaking/workshop
  7. Affiliate (แต่ได้น้อยมากประมาณ 0.1% ในกราฟเลยไม่โชว์ให้ โถ… 😆)

ตัวเลขรายได้ทั้งหมด สูงว่างานเดิม +17.5% ซึ่งเทียบเฉพาะเงินเดือนเดิม ที่ยังไม่รวมกับโบนัสและปันผล

และต้องบอกว่า “รายได้ ไม่เท่ากับ กำไร”

โดยเฉพาะธุรกิจ E-commerce กำไรจะบางกว่ามาก เมื่อเทียบกับธุรกิจ education, service

รวมถึงงาน Client Work ที่แม้จะมีรายได้อยู่ที่ 44% แต่ก็มีแจกงานให้น้องๆ ฟรีแลนซ์มาช่วยไม่น้อย รวมถึงแปลนที่จะลดงานส่วนนี้ลงให้เยอะที่สุด

เอาเป็นว่าบทความหน้าๆ จะมาแชร์เรื่องนี้อย่างละเอียดแยกอีกที subscribe รอได้เลยย

เป้าหมายครึ่งหลังของปี 2023

  • แยกธุรกิจที่ทำเรื่อง personal branding ออกมาเต็มตัว
  • สร้าง product ที่เป็น passive income เช่น digital files, short courses รวมถึงเพิ่มรายได้ส่วนที่เป็น affiliate ให้ได้เกิน 1%
  • ธุรกิจ dailysleek ที่ US ต้องวางแผนเพื่อทำให้เกิดกำไร sustain หรือแม้อาจจะต้อง pivot อันนี้ก็คือเรื่องใหญ่ที่ต้องตัดสินใจ

ความท้าทาย และสิ่งที่ได้เรียนรู้ในการเป็น Solo Entrepreneur

1. เมื่อไม่มีหัวโขน

แม้ว่าจะมีความสุขขึ้น (มาก) แต่ก็ไม่ได้แปลว่า 1 ปีที่ผ่านมาจะราบรื่น เพราะกว่าที่จะเริ่มตั้งหลักเรื่องงานได้ ก็ผ่านไปเกือบครึ่งปี

เมื่อมีคนถามว่าทำอะไร จากแต่ก่อนเวลาบอกว่า “ทำ Inbound marketing agency ชื่อ Magnetolabs และเป็น Partner ของ Content Shifu”

คนก็จะบอกว่า อ๋ออ รู้จักก, โหว ดีจุง – นั้นโน้นนี้

แต่พอเราเพิ่งเริ่มต้น ก็ต้องอธิบายใหม่หมดว่าตอนนี้ทำอะไรบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าพอเราไม่มีชื่อบริษัทมาต่อท้ายแล้ว จะทำอะไรก็ไม่ได้ง่ายเหมือนเดิมขนาดนั้น

เราก็แค่ต้องสร้างนามสกุลของเราขึ้นมาใหม่ให้เร็วที่สุดเอง

2. “Action kills Doubt

“สอน Personal Branding เนี่ยนะ?”

สิ่งที่ท้าทายอีกอย่างหนึ่งก็คือ การที่เราทำเรื่อง Personal Branding มัน turn off สำหรับบางคน เพราะเขารู้สึกว่าเป็นเรื่องที่คล้ายๆ กับการ fake หรือการสร้างภาพ

แม้ฟีดแบ็คจากคนที่สนใจเรื่องนี้ และคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญ ก็มีเยอะ

ซึ่งสิ่งที่โบเชื่อก็คือ “Action kills Doubt”

การทำในสิ่งที่เชื่อมั่นอย่างสม่ำเสมอ จะเป็นเครื่องพิสูจน์เอง และทำให้ข้อสงสัยของทั้งตัวเราเองและคนอื่นค่อยๆ จางไป

แต่แน่นอนว่า จะมีคนที่ไม่ว่าจะทำยังไง เขาก็ไม่ชอบเรา (และเราก็ไม่ชอบเขาด้วย 555) สิ่งที่ทำได้คือ ปล่อยไปซะ แล้วไปโฟกัสกับคนที่เราให้ประโยชน์กับเขาได้แทน 🙂

3. นิยามของความสำเร็จของ Entrepreneurship ที่ไม่เหมือนเดิม

…อย่างน้อยก็ของโบเอง ที่มองว่าความสำเร็จไม่ได้วัดที่ “จำนวนพนักงาน” และ “ขนาดออฟฟิศ” อีกต่อไปแล้ว แต่วัดกันที่สิ่งที่ทำสร้าง impact ให้กับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้หรือไม่

แต่เข้าใจนะถ้าใครจะอยากลองพุ่งไปให้สุดในแนวทางนี้ก่อน เพราะก่อนหน้านี้โบก็เคยมีเป้าหมายเหมือนนักธุรกิจทุกคนนี่ล่ะ เคยผ่านจุดที่บริษัทมีคนเกือบ 30 คน มีออฟฟิศกลางเมืองขนาดเกือบ 200 ตร.ม. มาแล้ว ซึ่งการผ่านสิ่งนั้นมาก็ทำให้ได้เรียนรู้อะไรเยอะมากๆ เลยล่ะ ก็ต้องขอบคุณประสบการณ์ตรงนั้น

แต่ถึงจุดนึง…

ในได้รายได้ที่เท่ากัน ถ้าเราได้ทำสิ่งที่ชอบ ถนัด ทำแล้วมีประโยชน์กับผู้อื่น รวมถึงมี flexibility ที่จะสามารถเอาเวลาไปดูแลตัวเอง ครอบครัว คนรัก

แล้วทำไมเราจะไม่เลือกข้อนี้ล่ะ?

ชีวิตที่เปลี่ยนไป and I love it!

สิ่งที่ชอบที่สุดในการทำงานแบบ solo ออนไลน์ คือทำให้มีโอกาส “เลือกจะทำ” หรือ “ไม่ทำอะไร” ได้ตามทั้ง logic และ emotion

การที่เราเสียเวลากับเรื่องที่ไม่จำเป็นน้อยลง เช่น การประชุม การเดินทาง การต่อคิว การเที่ยวในช่วงคนเยอะ รถติด ฯลฯ

ทำให้เราสามารถเลือกใช้เวลาให้กับสิ่งที่ meaningful ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็น ความสัมพันธ์ หรือสุขภาพ การเปิดประสบการณ์อะไรใหม่ๆ

สรุป: การมาทำธุรกิจออนไลน์คนเดียวแบบเต็มตัวนี้ แม้จะท้าทายเรื่องความมั่นคง แต่ก็คือชีวิตที่น่าจะเป็นตัวเอง และลงตัวที่สุดของโบแล้วในตอนนี้

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ กำลังใจ ให้กับใครก็ตามที่กำลังจะเริ่มต้นอะไรใหม่ สนใจการทำธุรกิจออนไลน์ ได้ร่วมเดินไปสู่ journey นี้ไปด้วยกันค่ะ :)

Subscribe
Notify of
guest
4 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments
Atthaphong Limsupanark

ยินดีกับเส้นทางใหม่ครับพี่โบ

นักรบ

ขอบคุณที่แชร์ครับ
ผมก็เป็นคนหนึงทีเลือกเส้นทาง solo มากกว่าเป็นผู้บริหารในบริษัทที่มีทีมงานเยอะๆครับ

เห็นด้วยในหลายๆข้อของเส้นทาง Solo คือ ชีวิตจะมีความยืดหยุ่นสูง สามารถเลือกทำอะไรและปฏิเสธงานบางอย่างได้ สามารถปรับเปลี่ยนเวลาทำงาน หรือคนที่ทำงานได้ รวมทั้งเวลาพักผ่อนและเที่ยวในวันคนน้อยๆได้

ส่วนปัญหาเรื่องความเสี่ยงในการขาดงาน สามารถแก้ไขได้ โดยการสร้าง personal branding ซึ่งคุณโบน่าจะได้สัมผัสมาแล้ว

ตามที่ผมเจอมากับตัว งานด้าน speaking , งาน consult , งาน education อาจไม่ได้สร้างรายได้เท่างาน Digital marketing service หรือ Ecommerce อื่นๆ แต่จะเป็นตัวสร้าง personal branding ได้ดี และเสริมให้งานของเรามั่นคง เพิ่ม connection มากขึ้นได้ครับ

ส่วนงานด้าน ecommerce จะมีความซับซ้อนกว่างาน service และอาจดึงเวลาของเรามากเหมือนกัน แต่จะมีประโยชน์มากเวลานำไปเป็นประสบการณ์ในการ consult ลูกค้าครับ

เอาใจช่วยในการเดินสู่เส้นทางนี้ครับ

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    Cookies Details

Save