ตอนเริ่มคิดว่าจะทำธุรกิจอะไรดี หลังจากเลิกทำธุรกิจ agency ที่ทำมา 5 ปี
ก็ได้ไป explore มาเป็นหลายธุรกิจ
- บางธุรกิจแค่ศึกษา แต่ไม่ได้เริ่ม
- บางธุรกิจลงแรงไปเป็นเดือน และไม่เวิร์ค
- บางธุรกิจมาเร็วไปเร็ว เจอ AI เข้าไปต้องเปลี่ยน model แทบไม่ทัน
บทความนี้โบเลยอยากจะมาแชร์วิธีที่โบใช้เลือกว่าจะทำธุรกิจอะไรดี ให้สามารถเลือกธุรกิจที่ตอบโจทย์ชีวิต ทั้งเรื่องเงิน ชีวิตส่วนตัว และเป้าหมายระยะยาว
ปัจจัยที่ใช้เลือกทำธุรกิจให้เหมาะกับตัวเอง
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา การถามว่า “ทำธุรกิจอะไรดี ถึงจะรวย” ไม่พอ
เพราะคนทำธุรกิจจะรู้ดีว่า ชีวิตของเรากับธุรกิจนั้นแทบจะแยกกันไม่ออก
โบจึงมีลิสต์ปัจจัย ที่ใช้ถามตัวเอง เพื่อให้แน่ใจว่าธุรกิจที่ทำจะเหมาะกับตัวเรา
1. สิ่งที่เราต้องการในชีวิต
ข้อนี้สำคัญที่สุด เพราะไหนๆ เราก็กำลังจะเริ่มใหม่แล้วก็อยากให้เริ่มจากสิ่งที่เราอยากได้ก่อน (ได้ไม่ได้เดี๋ยวว่ากัน)
รายได้ที่คาดหวัง?
อยากได้เท่าไหร่ ภายในเท่าไหร่? เพื่อนำไปดูว่าธุรกิจที่เราจะทำนั้นมันเป็นไปได้หรือเปล่า
รูปแบบการทำงาน?
ต้องการอิสระแค่ไหน? ชอบเข้าออฟฟิศทำงานกับคนเยอะๆ หรือชอบทำงานคนเดียว?
สังคมของคนที่เราอยากร่วมงานด้วย?
อย่าเอาตัวเองไปอยู่ในสังคมที่เราไม่อยากอยู่เด็ดขาด! คิดให้แตกลูกค้าแบบไหน ลูกน้องแบบไหน เพื่อนร่วมงานแบบไหน ที่เราอยากร่วมงานด้วย
ปัจจัยอื่นๆ ที่อยากได้?
ยกตัวอย่างโบเอง อยากทำธุรกิจที่ภาคภูมิใจ ได้ใช้ความรู้ความสามารถด้วย ได้ใช้วิชาการออกแบบ ได้เลือกว่าจะทำอะไร ไม่ทำอะไร ทำเวลาไหน เมื่อไหร่ ด้วยตัวเอง
ธุรกิจที่เราจะไม่ทำเด็ดขาด?
เช่น ธุรกิจที่ขัดต่อความดี ความเชื่อในชีวิต ธุรกิจสีเทา หรือธุรกิจที่ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ แต่ทำให้คนเดือดร้อน เป็นต้น
2. ความถนัด ทักษะ (ที่มีและไม่มี)
โบเชื่อว่าไม่ว่าจะเลือกทำธุรกิจอะไร ก็ไม่ง่ายทั้งนั้น แต่ก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้
โดยเฉพาะถ้าเราเลือกทำสิ่งที่ถนัด หรือมีแววว่าจะเรียนรู้ได้เร็ว คุ้นเคยกับสิ่งนั้นๆ
ในทางตรงกันข้าม หากเราเลือกทำสิ่งที่เราไม่ถนัด ก็เหมือนเราเข็นครกขึ้นภูเขานั่นแหล่ะ ยิ่งทำยิ่งรู้สึกยาก ในที่สุดก็ท้อไปเอง
ยกตัวอย่างของโบเอง
สิ่งที่ถนัด
- การออกแบบ
- การเขียนคอนเทนต์
- การคิด การหาไอเดีย
- การเริ่มธุรกิจใหม่ๆ
สิ่งที่ไม่ถนัดเลย
- การคำนวน
- การทำระบบที่ซับซ้อน
- การบริหารจัดการคนจำนวนมาก
- การทำอะไรที่เป็น routine ระยะยาว
ปล. แม้จะลิสต์ออกมาแล้ว ไม่ได้แปลว่าเราจะเลือกได้ทั้งหมด ในช่วงแรกเราอาจจะต้องทำสิ่งที่เราไม่ชอบบ้าง แต่เมื่อผ่านไประยะนึง เราก็ควรจะเอาส่วนที่เราไม่ถนัดออกไปให้คนอื่นช่วยทำ อ่านบทความ วิธีการจ้างผู้ช่วยออนไลน์
3. Resource ที่เรามี
ถ้าข้อ 2 คือสิ่งที่เรามีอยู่กับตัว ในข้อ 3 นี้เราจะมาคุยถึง resource จากภายนอกกัน
รูปแบบของ resource ภายนอกก็อย่างเช่น
- เงินทุน หรือแหล่งเงินทุน
- สังคมที่เราอยู่ connection ที่มี
- ลิสต์รายชื่อ หรือกลุ่มลูกค้าจากธุรกิจเดิม
- อื่นๆ เช่น ที่บ้านเป็นโรงงาน, สูตรอาหารคุณแม่, ที่ดินที่ไม่ได้ใช้งาน
ฯลฯ
หากเรามี resource ที่เหมาะกับธุรกิจ ก็เหมือนเรามีไพ่ลับ ที่ช่วยให้เราเริ่มต้นได้ง่าย เติบโตได้ง่าย
ตัวอย่างเช่น สนใจทำธุรกิจอาหาร แต่ไม่มีทุน ก็อาจจะต้องลองเปลี่ยนไปเป็นธุรกิจคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับอาหารแทน ซึ่งใช้เงินทุนน้อยกว่ามาก แต่ยังอยู่ในเรื่องที่เราสนใจ
4. โอกาสของธุรกิจที่จะทำ
ธุรกิจนั้นเป็นธุรกิจแบบมาไวไปไวหรือเปล่า?
หรือง่ายๆ ก็คือเป็น Trend ที่เกิดมาฮิต แล้วก็ล้มหายตายจากไปอย่างรวดเร็ว
ธุรกิจนั้นเลยจุดโอกาสไปหรือยัง?
วิธีในการวัดว่าธุรกิจนั้นแมสเกินไป เรายังเข้าทันไหม คือ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณได้ยินทุกคนพูดถึงธุรกิจนั้น
จะเดินไปไหน ลุง ป้า น้า อา พี่วินมอไซต์ แม่ค้า ก็พูดถึง (และสนใจทำซะด้วย)
แปลว่า เรามาช้าไปแล้วล่ะ…
ธุรกิจนั้น Scale หรือขยายได้ไหม?
ข้อนี้เราใช้หาโอกาสที่จะเติบโตและทำเป็นธุรกิจระยะยาว ถ้าเป็นธุรกิจแบบออนไลน์ ก็มีแววที่จะ scale ได้มากกว่าและง่ายกว่าธุรกิจร้านอาหารเป็นต้น
แน่นอนว่าร้านอาหาร scale ได้ แต่ก็ต้องการเงินลุงทุนในการ Scale ที่มากกว่าธุรกิจแบบคอร์สออนไลน์ เป็นต้น (แน่นอนว่าถ้าคุณมี resource ในข้อ 4. เป็นตัวเงิน ที่ดิน ตึก การ Scale ร้านอาหารของคุณก็จะง่ายกว่าคนที่ไม่มี)
5. มองเห็นตัวเองในการทำธุรกิจนั้นทุกวันเป็นอย่างไร?
เพราะการเริ่มธุรกิจใหม่แม้จะสนุก แต่ถ้าต้องเริ่มใหม่บ่อยๆ ก็อาจจะไม่สนุกแล้ว
ดีกว่าไหม ถ้าเราเห็นภาพชีวิตล่วงหน้าไว้เลยว่าถ้าฉันทำธุรกิจนี้จะต้องเจออะไรบ้าง?
ลองไปหาตัวอย่างของคนที่ทำอาชีพ ทำธุรกิจนั้นแล้วประสบความสำเร็จดู ว่าเขามีชีวิต ไลฟ์สไตล์ยังไง วันๆ ทำอะไร ทำงานร่วมกับใครบ้าง
ส่องแค่ online อย่างเดียวไม่พอ หากเป็นไปได้ลองหาคนรู้จักแล้วเข้าไปพูดคุยสอบถามจากเขาดู
หากเข้าถึงแบบ 1:1 ไม่ได้ ก็ให้ลองไปงานที่รวมคนเหล่านั้นดู แล้วเราจะค่อยๆ รู้จักคนในแวดวงนั้นมากขึ้น
เลือกธุรกิจที่ตอบโจทย์ทั้งการเงิน ความสุข และเป้าหมาย
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณตั้งโจทย์เลือกทำธุรกิจได้ตรงกับเป้าหมาย ความสามารถ และนำพามาซึ่งความสุขให้ชีวิต และตอบคำถามให้กับคนที่อยากทำธุรกิจส่วนตัวแต่ไม่รู้จะทำอะไร
แนะนำเพิ่มเติมว่า หากได้ Top 3 ของธุรกิจที่มีแววแล้ว ให้ลองลงมือทำจริงเลย แล้วเราจะได้รู้ว่าสิ่งที่เราคิดกับความเป็นจริงเป็นอย่างไร
เป็นกำลังใจให้คนที่กำลังเริ่มธุรกิจใหม่ทุกคนค่ะ :)
