ทำไมเราถึงติด Facebook? ภารกิจทวงเวลาคืนจากพี่มาร์คในไม่กี่คลิก

เมื่อ 2 ปีก่อน เคยเขียนบล็อค ชีวิตที่ปราศจาก Facebook คราวนั้นรู้สึกว่าตัวเองติด Facebook มาก จึงตัดสินเลิกแบบหักดิบ ถึงขั้นไป Deactive Facebook Account แต่ทำได้ไม่กี่วันก็พบว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากในชีวิตจริง เพราะเราก็ยังต้องทำมาค้าขายติดต่อพูดคุยกับมนุษย์โลกคนอื่นๆ ผ่าน Facebook อยู่ทุกวัน จนแล้วจนรอดก็ยังเสียเวลาให้กับ Facebook วันละหลายชั่วโมง จนเมื่อช่วงกลางนี้นี้ ก็ตัดสินใจหาตัวช่วยเพราะอยากได้เวลาจากพี่มาร์คคืนมาซะที

ทำไมคนถึงติด Facebook?

คุณเคยถามตัวเองมั้ยว่าคุณเข้า Facebook เพราะอะไร?

  • เบื่อ ไม่รู้จะทำอะไร: เข้า Faecbook ละกัน (บางคนก็ IG) นั่งกินข้าว เดินทาง รอประชุม ฯลฯ
  • ความเคยชิน: ทุกวันตื่นมาก็ต้องเปิด Facebook ดูก่อน มีอะไรอัพเดทบ้าง ก่อนนอน ก็ยังไถไปเรื่อยๆ อีก
  • รู้สึกกลัว: กลัวว่าจะพลาดอะไรบางอย่างไป ตกข่าวบ้าง ไม่รู้เรื่องที่เป็นประเด็นบ้าง
  • มีคนเรียก: Notification นี่ก็เด้งทั้งวัน เด้งทีก็เข้าไปที เข้าไปทีก็ยาวทุกที…

จะเห็นว่าสาเหตุที่เราเล่น facebook เพราะเรา “ไม่มีเป้าหมาย” ซึ่ง facebook news feed ก็ตอบโจทย์ได้ตรงเป๊ะ “เอ้า ไม่รู้ว่าอยากดูอะไรใช่มั้ย ไถไปเรื่อยๆ สิจ๊ะ เดี๋ยวก็มีอะไรน่าสนใจโผล่มาเอง” พี่มาร์คไม่ได้กล่าวไว้ แต่สร้าง Facebook หล่อหลอมให้ผู้ใช้เกิดพฤติกรรมอย่างนี้ขึ้นมา

ถ้าลองตั้งสมมติฐานดู:

  • ถ้าเรามีอย่างอื่นทำ เราก็จะไม่เข้าไปเล่น Facebook สังเกตตัวเองดู ช่วงงานยุ่งใกล้ถึง deadline นี่ไม่แตะเลย แต่พอขึ้นรถไฟฟ้า ดันไม่รู้จะทำไร เปิด Facebook ละกัน
  • ถ้าไม่มีอะไรมาคอยกระตุ้น “นิสัย” ที่เราถูกปลูกฝังว่าต้องเข้าไป Facebook ทุกวันๆ ก็จะค่อยๆ หายไป
  • ถ้าเราเข้าไปแล้วไม่เจออะไร ไม่มีอะไรให้ดู เราก็จะไปเปลี่ยนทำอย่างอื่นแทน เพราะมันไม่มีอะไรจะเข้าไปดูทำไม?

แปลว่า “ถ้าเรามีเป้าหมาย”, “ถ้าไม่มีคนเรียกเข้าไปใน Facebook”, “ถ้าเข้าไปแล้วไม่เจออะไร” เราก็น่าจะเล่น Facebook น้อยลงใช่หรือไม่?

บทความนี้เราจะแนะนำวิธี “ลด” การเล่น Facebook ที่ “ทำตามได้ เห็นผลจริง” เพราะว่าตอบโจทย์สมมติฐานด้านบนที่เราว่าไว้ทุกข้อ

1. สำรวจตัวเอง: เราใช้เวลาไปกับ Facebook วันละเท่าไหร่?

คุณเล่น Facebook วันละกี่ชั่วโมง?

คุณคิดว่าคุณติด Facebook หรือเปล่า?

ก่อนที่จะเริ่มรักษา เราต้องรู้ก่อนว่าตอนนี้ “อาการเราอยู่ในขั้นไหน” แนะนำให้คุณไปสมัครใช้งาน RescueTime ซึ่งเป็นบริการ ที่ track สิ่งที่เราทำบนคอมพิวเตอร์ว่า ใน 1 วัน เราเปิดใช้โปรแกรมหรือเข้าเว็บไหนบ้าง เป็นเวลาเท่าไหร่อย่างอัตโนมัติ แล้วคุณก็จะได้รู้กันในคราวนี้ล่ะว่า วันๆ นึงเราเสียเวลาให้กับ Facebook ไปเท่าไหร่กันแน่!

ขอสารภาพว่า ห้าหกเดือนก่อนไม่เคยมีวันไหนที่เข้า Facebook ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง เดี๋ยวนี้ (ตั้งแต่ทำตามเทคนิคด้านล่าง) น่าจะอยู่ที่ประมาณวันละไม่เกิน 30 นาที ยกเว้นวันไหนที่ต้องเข้าไปใช้ facebook ทำงานก็จะทะลุเป้าไปบ้าง ไม่ว่ากัน

rescuetime_-_your_weekly_dashboard

สำหรับการ Track การใช้งานบน iOS แนะนำแอพที่ชื่อว่า Moment (Free) แอพนี้จะ track เวลาที่เราใช้โทรศัพท์ในแต่ละวัน มีการเปิดหน้าจอวันละกี่ครั้ง แต่ฟีเจอร์ยังไม่ได้ลงลึกไปมากว่าใช้แอพตัวไหนกี่นาที ก็อาจจะใช้เป็นข้อมูลสรุปเร็วๆ มากกว่า (ใครมีแอพ track อย่างละเอียดแนะนำได้นะคะ)

2. Challenge ตัวเอง ด้วยการตั้งเป้าหมายระยะสั้น

หลังจากรู้แล้วว่า “ณ ปัจจุบัน ฉันใช้เวลาไปกับ Facebook บนคอมพิวเตอร์ วันละ x ชั่วโมง” ถ้าเราอยากจะเล่น Facebook ให้น้อยลง เราก็ต้องบอกมาให้ชัดไปเลยว่า ที่ว่าน้อยลงเนี่ย คือกี่นาทีต่อวัน ในบทความนี้ อยากให้คุณลอง Challenge ตัวเองดู โดยกำหนดเป็นเป้าหมายระยะสั้นขึ้นมา เพื่อที่จะได้ทำได้สำเร็จ เห็นผล และประเมินผลได้ โดยไม่เบื่อกันไปซะก่อน เช่น

“ใน 7 วันนี้ ฉันจะเล่น Facebook ไม่เกินวันละ 1 ชั่วโมง ในวันทำงาน และไม่เกินวันละ 2 ชั่วโมงในวันหยุด”

ถ้าเป็นคนที่ติดโทรศัพท์มากๆ ก็อาจจะตั้งเป็น

“ใน 7 วันนี้ ฉันจะไม่ใช้โทรศัพท์เกินวันละ 2 ชั่วโมง”

ทำไมแนะนำให้ทำเป็น challenge? เพราะยิ่งคุณทำเป้าหมายนั้นสำเร็จเร็วเท่าไหร่ คุณก็จะได้กำลังใจ และรู้สึกฮึกเหิมว่า เห้ย เราก็ทำได้นะ แล้วเวลา 7 วันมันไม่สั้นไม่ยาวเกินไป หากคุณเริ่มลงมือทำ คุณน่าจะได้ “พบ” อะไรบางอย่างด้วยตัวเอง ที่จะหาไม่ได้จากการอ่านเรื่องของคนอื่น

เทคนิคที่อยากแนะนำเพิ่มเติมคือ หาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ จะได้คอยช่วยกันให้กำลังใจกัน และอย่าลืมประกาศเป้าหมายให้คนรอบข้างรู้ จะช่วยให้เรา commit กับเป้าหมายนี้มากขึ้น

3. แชร์เทคนิคและเครื่องมือ ที่ช่วยลดการติด Facebook อย่างได้ผล

Technique #1 เอา Facebook news feed ออกไปซะ

Kill News Feed คือ extension ของ Chrome หน้าที่ของมันก็ตามชื่อเลย ฆ่า news feed ทิ้งให้หายไปซะ! หายไปจริงๆ นะ ไม่ได้โกหก คือบอกเลยว่าเวลาส่วนใหญ่คนเล่น facebook มันจะอยู่ที่ news feed ไม่รู้ทำไรก็เข้าไปไถๆ ดูนั่นนี่โน่นไปเรื่อยแบบไม่มีเป้าหมาย แต่หลังจากคุณลง Kill News Feed แล้ว คุณก็ยังเข้า Facebook ยังได้ notifications ยังโต้ตอบคอมเม้นท์หรือคุยแชทกับคนอื่นได้เหมือนเดิมแหล่ะ เพียงแต่ว่าคุณจะไม่เห็นหน้า news feed อีกต่อไป อ่าว แล้วฉันจะตกข่าวมั้ยเนี่ย จากประสบการณ์ที่ผ่านมาถ้าข่าวดังจริง เดี๋ยวเพื่อนก็มาเล่ามาเม้าส์ให้ฟังเอง และถ้าอยากรู้เรื่องเพื่อนคนไหนเป็นพิเศษ ก็กดเข้าไปดูที่ profile เค้าโดยตรงได้อยู่ ไม่ต้องกลัวจะไม่มีสังคม

Technique #2 เอา Facebook App ออกจาก หน้าแรก แล้ว ปิด Notification ซะ!

จากประสบการณ์ที่ผ่านมาเคยลบ Facebook app จากโทรศัพท์ไปเลย แล้วไม่ค่อยเวิร์ค เพราะเราก็ยังต้องใช้ Facebook ระหว่างวันอยู่ เช่นการพูดคุย การ connect กับคนอื่น ก็เลยตัดสินใจลงแอพไว้ แล้วใช้วิธีปิด Notification ทุกอย่างแทน สำคัญที่สุดคือต้องเอาเจ้าปุ่มแดงๆ หรือ badge ที่ขึ้นบน icon ออกไปให้หมดจด เพราะถ้ามันมี badge สีแดงๆ มันจะเรียกร้องความสนใจและกระตุ้นให้เราเข้าไปใน Facebook ได้ง่าย

Technique #3 unfriend, unfollow, unlike

เพิ่งอ่านหนังสือ The Subtle Art of Not Giving A F*uck จบไปหมาดๆ สรุปใจว่าได้ว่า

ในชีวิตของคนเรามันมีเรื่องราวมากมาย (จนเกินไป) ที่ให้เราสนใจ หรือต้องให้ความสำคัญ ฉะนั้น หากคุณไม่มีการจัด priority ให้กับเรื่องต่างๆในชีวิต และเผลอให้ความสำคัญไปกับทุกเรื่อง มันเท่ากับคุณจะไม่มีเวลา หรือแรง หรือพลัง ไปให้ความสนใจกับเรื่องที่มันสำคัญกับชีวิตคุณจริงๆ

ใน Facebook ก็เช่นกัน คุณมีเพื่อนกี่คนใน Facebook? แล้วมีกี่คนที่คุณ Interact กับเค้า (Like, comment, share, chat) มันจะมีบางคนที่แชร์แต่เรื่องที่หาสาระได้น้อยมากๆ โอเค คนเราไม่ต้องมีสาระอยู่ตลอดก็ได้ แต่ถ้ามันไม่ได้ส่งเสริมให้ชีวิตเราดีขึ้นเลย เราจะไปยอมเห็นมันทำไม? ถ้ามีเวลา อยากแนะนำให้ทุกคนมานั่งจัดสภาพแวดล้อมของตัวเองดู

Unfriend: เอ๊ะ เจ๊คนนี้ใครนะ? ในชีวิตจริงก็ไม่รู้จัก หน้าก็ไม่เคยเจอ mutual friend ก็ไม่มี ในเฟสก็ไม่เคย interact กัน แปลว่าเราไม่น่าจะรู้จักกันนะ

Unfollow: คนนี้รู้จักแหล่ะ เป็นเพื่อนที่โรงเรียนประถม วันๆ แชร์แต่เรื่องใต้เตียงดารา เอ๊ะ ฉันต้องรู้ด้วยหรอ? ไม่เอานะ ไม่อยากรู้

Unlike: ถ้า Page อะไรก็ไม่รู้ที่คุณไม่ได้สนใจแล้ว กด Like เอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ วันนี้ดันโพสขายครีมอีก บายยย

Technique #4 หาอย่างอื่นที่มีประโยชน์ทำ

คุณลองคิดดูเล่นๆ หากคุณลดเวลาที่เสียไปบน facebook ลงได้วันละ 1 ชั่วโมง คุณจะเอาเวลานั้นไปทำอะไรได้บ้าง?

อยากอ่านหนังสือเพิ่มพูนความรู้ แต่ไม่มีเวลาเลย อ่านแล้วหลับ

อยากวิ่งมาราธอน แต่ไม่มีเวลาไปซ้อมหรอก ฝนก็ตก งานก็เยอะ (เฟสบุคก็ต้องเล่น!)

อยากเริ่มต้นเขียนบล็อค แชร์เรื่องโน้นเรื่องนี้ แต่ยังไม่ได้เริ่มซักที

อยากฝึกภาษา แต่มันต้องไปลงคอร์สเรียน ทำงานเสร็จก็มืดแล้ว ว้าแย่จัง

ฯลฯ

แต่สำหรับคนที่ยังไม่ได้มีเป้าหมายอย่างอื่น มันมีแอพอื่นๆ ในโทรศัพท์อีกมากมายที่มีประโยชน์ ช่วยให้เราพัฒนาตัวเอง ยกตัวอย่างแอพที่ใช้ประจำ:

  • Pocket เอาไว้อ่านบทความจากเว็บต่างๆ ที่เรา save ไว้ เหมาะมากไว้อ่านเวลานั่งรถไฟฟ้า ทานข้าวคนเดียว แทนที่จะไถ feed
  • Lumosity เกมส์ฝึกสมองด้านต่างๆ แถมสนุกมาก มีเกมส์มาให้เล่นฟรีได้วันละ 3 เกมส์
  • Podcasts หากเป็นช่วงที่เบื่อๆ แทนที่จะฟังรายการวิทยุ ก็ลองเปลี่ยนมาฟัง podcasts ดู มันมีรายการมากมายให้คุณได้เลือกฟังตามความสนใจ แต่ตอนนี้รายการที่เป็นภาษาไทยยังน้อยอยู่
  • TED Talk มี Talk มากมายที่เจ๋งๆ อยู่บนนี้จนฟังไม่หมด ได้ความรู้แถมได้ฝึกภาษาไปในตัว

สรุป

สุดท้ายเสร็จสิ้น Challenge อย่าลืมกลับเข้าไปที่ RescueTime ดูซิว่าเรายังใช้เวลาไปกับ Facebook เยอะอยู่ไหม? ถ้าช่วงแรกๆ รู้สึกอึดอัด ก็ไม่เป็นไร จะแอบเข้าไปดู News feed บ้างก็ไม่ผิด แต่รับรองว่าทำไปเรื่อยๆ คุณก็จะชินกับ Facebook ที่ไม่มี News Feed และรู้สึกเป็นอิสระกับการใช้โทรศัพท์ที่ไม่มี Notification ไปเอง

เวลาในชีวิตเรามันน้อยอยู่แล้ว จะดีกว่าไหมถ้าเราจะยึดเอาเวลาของเราคืนมาเอาไปทำสิ่งที่เราอยากทำจริงๆ :)

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    Cookies Details

Save