เริ่มทำ Personal Branding ในปี 2023 ใน 5 ขั้นตอน

ก่อนหน้านี้ โบเข้าใจผิดมาตลอดว่าปัญหาของคนที่อยากทำ Personal Branding แต่ที่ไม่ได้ทำซักทีคือ

  • ไม่ได้มีความแตกต่าง
  • กลัวคนอื่นแซว
  • เขียนคอนเทนต์ไม่เป็น
  • ไม่มีเรื่องเล่า
  • รู้สึกว่าตัวเองไม่เก่ง

แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย ปัญหาอันดับ 1 ที่พบคือ คือ “ไม่รู้จะเริ่มยังไง”

ทั้งที่ก็มีความรู้ มีของ มีเรื่องอยากเล่าเต็มไปหมด แต่ตัวตนกลับไม่ชัด

ในโพสต์นี้ โบจะขอมาเล่าวิธีการเริ่มต้นทำ Personal Branding แบบที่เริ่มวันนี้ได้เลย ใน 5 steps

  1. หาตัวตน values ของเราให้เจอ
  2. วาดภาพกลุ่มเป้าหมายให้ชัด
  3. กำหนด 3 แกนคอนเทนต์ที่โฟกัส
  4. ลิสต์หัวข้อออกมา 30 topics
  5. ล็อกเวลาเขียนวันละ 1 ชม.

1. หาตัวตน values ของเราให้เจอ

ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ เพราะหากว่าไม่ผ่านข้อนี้ ก็จะทำให้ไปข้อต่อไปได้ยาก (พาลไม่ได้เริ่มซักที)

โบก็เป็นคนนึงที่รู้สึกว่าตัวเองสนใจหลายอย่าง มีประสบการณ์หลากหลาย

เลยจับต้นชนปลายไม่ถูกว่า “แล้วตัวตนฉันคืออะไร”

ตัวตน = (ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์) + (คุณค่า values ที่เราเชื่อถือ)

วิธีการที่โบใช้หาภาพตัวตนให้ชัด คือการถามคำถามเหล่านี้

  • อะไรคือสิ่งที่เรากำลังทำ?
  • ประสบการณ์ และความสำเร็จที่ผ่านมา?
  • ใครคือคนที่เราอยากช่วย อยากร่วมงานด้วย?
  • อะไรที่เรากำลังสนใจ?
  • คุณค่าอะไรที่เราชื่อถือ และไม่เชื่อถือ?
ตัวอย่าง mindmap ชีวิตที่โบลิสต์ออกมา เยอะมากกก

กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่สนุกมาก ที่จะช่วยให้เรารำลึกถึงชีวิต accomplishments ต่างๆ ที่เคยได้ทำมาตลอดชีวิต

สำหรับโบเอง areas หรือ patterns ที่เห็นซ้ำๆ จากการเขียน mindmap ด้านบน ก็จะเป็นเรื่อง

  • การเริ่มทำธุรกิจ
  • website
  • design
  • marketing, branding
  • การสอน

เมื่อได้หัวข้อแล้ว อะไรล่ะ จะทำให้เราพูดเรื่องหัวข้อที่ใครก็พูดได้เหล่านั้น แล้วแตกต่าง ตรงนี้ล่ะที่เราต้องมาคิดถึง values หรือความเชื่อของเรา

ยกตัวอย่างของโบเอง

คุณค่าที่เชื่อถือ คือ

  1. การใช้ชีวิตแบบมีความสุข
  2. การมีความสัมพันธ์แบบ authentic กับผู้คน
  3. การทำงานแบบทำน้อยได้มาก ใช้คนน้อยที่สุด
  4. การสร้างสินค้า บริการที่มีคุณค่า ทั้งในแง่ประโยชน์ใช้สอยและความพึงพอใจ

ส่วนคุณค่าที่ไม่เชื่อถือ คือ

  1. การทำงานหนักในเรื่องที่ไม่ควรทำ
  2. การเข้าหาคนเพื่อหวังผลประโยชน์ และความสัมพันธ์แบบผิวเผิน
  3. การผลิตสินค้า บริการ ที่ด้อยคุณภาพ

ส่วนของ Value นี้จะทำให้เราพูดเรื่องเดียวกันกับคนอื่นแต่ว่าแตกต่าง และมีความ touching กับคนที่มีความเชื่อเหมือนๆ กันได้

2. วาดภาพกลุ่มเป้าหมายให้ชัด

ข้อนี้สำคัญเลย เพราะการมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดจะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น

เพราะทำให้เรารู้ว่า “เรากำลังพูดอยู่กับใคร”

ห้ามเด็ดขาดที่จะบอกว่า “ทุกคน” เพราะไม่งั้นจะทำต่อได้ยาก หาความแตกต่างไม่ได้

สำหรับเทคนิคที่โบใช้ คือการตีตาราง 4 ช่อง แล้วค่อยๆ scope หรือใส่รายละเอียดให้กับกลุ่มเป้าหมายไปเรื่อยๆ เช่น

ตัวอย่างการลิสต์กลุ่มเป้าหมาย

อันนี้คือตัวอย่างที่โบใช้จริงตอนเลือก Target Group กลุ่มลูกค้าที่โบอยากร่วมงานด้วย สังเกตได้ว่า เราไม่บอกว่าลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมายคือ “เจ้าของกิจการ” แต่จะต้อง scope ลงไปเรื่อยๆ จนเราเห็นภาพพวกเขาออกมาได้ชัดเจน

3. กำหนด 3 แกนคอนเทนต์ที่โฟกัส

เมื่อเรารู้แล้วว่า value เรื่องที่เราสนใจคืออะไร และกลุ่มเป้าหมายคือใคร

สิ่งต่อไปที่เราจะคิดออกก็คือ content pillars หรือแกนคอนเทนต์ที่เราจะทำ

วิธีคิด content pillars เราสามารถคิดได้ 2 แบบค่ะ

แบบที่ 1: คิดจากกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก

แบบนี้จะเหมาะกับคนที่มีสินค้าและบริการ รวมถึงกลุ่มเป้าหมายชัดมาก ว่าเราอยากจะขายของอะไร

ตัวอย่าง

  • สินค้าที่ขาย: software สำหรับงานบัญชี
  • กลุ่มเป้าหมาย: เจ้าของกิจการ หรือพนักงานฝ่ายบัญชี นักบัญชี

วิธีคิดแกนคอนเทนต์ได้ว่า คนที่เขาเป็นกลุ่มเป้าหมายเรา เขาจะสนใจเรื่องอะไรบ้าง? เรื่องอะไรที่จะทำให้เขาประสบความสำเร็จในการทำบัญชี ทำธุรกิจ? เป็นต้น

แบบที่ 2: คิดจากตัวเราเป็นหลัก

แบบนี้จะเหมาะกับคนที่ยังไม่แน่ใจว่าจะขายอะไร แต่มีในใจแล้วล่ะว่าฉันอยากจะเป็นที่รู้จักในเรื่องอะไร

ซึ่งแบบนี้ก็จะง่ายในการคิดแกนคอนเทนต์ ซึ่งแอบเป็นวิธีคิดแบบ influencers หน่อยๆ เน้นให้คนติดตามก่อน ขายอะไรค่อยว่ากัน

4. ลิสต์หัวข้อออกมา 30 topics

เมื่อได้แกนคอนเทนต์หลักออกมาแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการคิดหัวข้อ topic จาก content pillars ด้านบนให้ได้อย่างน้อย 30 หัวข้อ

อาจจะฟังดูท้าทาย แต่เชื่อว่าทำได้ทุกคนแน่นอน ให้ลองจับเวลา 30 นาทีแล้วเริ่ม!

.

.

.

.

.

แต่ แต่ แต่ หากว่าคิดให้หัวแตกเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก

แสดงว่า เราขาดข้อมูลแล้วล่ะ

ซึ่งข้อมูลในที่นี้ หมายถึง insight ของกลุ่มเป้าหมายของเรา

หากเป็นเช่นนี้ ให้หาเวลาพูดคุยกับกลุ่มเป้าหมายเราสัก 5-10 คน แล้วพยายามทำความเข้าใจปัญหาของเขา จะทำให้เรามีข้อมูลมาเขียนคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์เข้าได้แบบไม่รู้จบ เพราะเราจะเขียนได้แบบไม่มโน

ปล. โบเองเขียนคอนเทนต์นี้ก็เพราะว่ามีผู้ติดตามถามเข้ามาเยอะว่า ถ้าจะเริ่มทำ personal branding แบบง่ายที่สุด ควรทำอย่างไร

5. ล็อกเวลาทำคอนเทนต์

การสร้างคอนเทนต์เป็นเรื่องที่ใช้เวลา โดยเฉพาะสำหรับคนที่ไม่ได้ทำคอนเทนต์เป็นอาชีพหลัก และกำลังจะเริ่มทำคอนเทนต์

วิธีการที่แนะนำมีอยู่ 2 วิธีคือ

วิธีที่ 1: block เวลาวันละ 30-60 นาที เวลาเดียวกันทุกวัน เพื่อใช้ทำคอนเทนต์อย่างเดียว

วิธีที่ 2: block เวลาไปเลยครั้งละ 3-4 ชั่วโมง ใน 1 สัปดาห์ แล้วบอกตัวเองว่าให้ทำคอนเทนต์ในช่วงเวลานี้ให้ได้เยอะที่สุด

ตัวอย่างการกำหนดเวลาในการทำคอนเทนต์ในแต่ละสัปดาห์

ที่แนะนำ 2 วิธีเพราะธรรมชาติของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนชอบทำงานแบบช่วงสั้นๆ แต่ทำสม่ำเสมอ บางคนเขียนแล้วมันส์มือ ถ้าต้องยกไปอีกวันอาจจะต่อไม่ติด

ฉะนั้น ถนัดแบบไหน ใช้วิธีนั้น แต่ต้องให้แน่ใจว่าเรา block เวลาให้สิ่งนี้แล้ว

Personal Brand ไม่ทำก็มีอยู่แล้ว

การเล่าเรื่อง แชร์ความรู้ ความคิดเห็น คือหนทางการทำให้ personal brand ของเราค่อยๆ ชัดขึ้น เมื่อ personal brand ชัด จะต่อยอดทำอะไรก็จะง่ายขึ้น การที่ทุกวันนี้เรามีตัวตนอยู่บน social ก็เป็น personal brand ของเราที่มีอยู่แล้ว แต่จะดีกว่าไหม หากเรามาเริ่มกำหนดทิศทาง personal brand ของเราให้เป็นไปอย่างที่เราอยากให้เป็น

และนี่ก็คือ personal branding strategy 5 ขั้นตอน ที่จะช่วยให้คุณเริ่มทำ online personal brand ได้ในปี 2023 ค่ะ :)

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    Cookies Details

Save